เพลง OST ภาพยนตร์เรื่อง Punch-Drunk Love (2002) ที่กำกับโดย Paul Thomas Anderson นับว่าเป็นหนังที่แฟน PTA รักมากที่สุดเรื่องหนึ่ง (ถึงแม้เราจะไม่เก็ทเท่าไหร่ ;-;) ถ้าเคยดูหนังแล้วก็จะรู้ว่าเนื้อเพลงสื่อได้เหมาะมาก

เพลงนี้แต่งโดย Jon Brion ผู้ประพันธ์สกอร์หนัง(นอกกระแส?)หลายเรื่องเช่น Lady Bird (2017) และ Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2014)



You've gotta hope that there's someone for you
As strange as you are
Who can cope with the things that you do
Without trying too hard

เธอต้องหวังว่าในโลกนี้มีใครคนหนึ่งรอคอยเธออยู่
คนที่แปลกเหมือนกับเธอ
คนที่รับได้กับสิ่งที่เธอทำ
โดยที่ไม่ต้องพยายามมากมายอะไร

Because you can bend the truth until it's suiting you
These things that you're wrapping all around you
You never know what they will amount to
And your life is just going on without you
It's the end of the things you know, here we go

เพราะเธอบิดเพี้ยนความจริงจนมันเข้าเค้ากับเธอจนได้
สิ่งเหล่านี้ที่เธอกำลังห่อหุ้มรอบตัวเอาไว้
เธอไม่มีวันรู้ว่ามันจะทับถมกันไปถึงไหน
และชีวิตก็แค่ต้องเดินต่อไปโดยไม่มีเธอ
คุณรู้ว่ามันคือจุดจบของทุกสิ่ง และนี่คือจุดเริ่มต้น

You've gotta know that there's more to this world
Than what you have seen
Because we all have a limited view
Of what we can be

เธอต้องรู้ว่าในโลกนี้มีอะไรมากกว่า
สิ่งที่เธอเคยเห็น
เพราะเราทุกคนมีมุมมองที่จำกัด
ว่าเราสามารถเป็นอะไรได้บ้าง

As we move along with our blinders on
Each one of us feels a little stranded
And you can't explain or understand it
Each one of us on a different planet
And amidst all the to and fro
Someone can say hello, here we go

ขณะที่เราหลับหูหลับตาลอยไปตามกระแส
เราแต่ละคนรู้สึกค่อนข้างจะเคว้งคว้าง
และเธอไม่สามารถอธิบายหรือเข้าใจมัน
เราแต่ละคนอยู่บนดาวเคราะห์ของใครของมัน
ท่ามกลางจักรวาลที่หมุนเคว้งอยู่
ใครบางคนอาจจะเข้ามาทักทาย มันเริ่มขึ้นแล้ว

The feeling that someone really gets you
It's something that no one should object to
It could happen today
So I suggest you skip your habit of laying low
It's the end of the things you know, here we go

ความรู้สึกที่มีคนเข้าใจเธออย่างแท้จริง
คือสิ่งที่ไม่มีใครควรปฏิเสธ
มันอาจเกิดขึ้นวันนี้
ดังนั้นฉันขอแนะนำให้เธอเลิกนิสัยหลบๆ ซ่อนๆ
มันถึงเวลาจบเรื่องพวกนั้นแล้วรู้ไหม มาเริ่มกันเถอะ

Because someone can say, "Hello
You old so and so, here we go"

เพราะใครบางคนอาจพูดว่า "สวัสดี
คุณไปอยู่ไหนมาตั้งนาน มาเริ่มกันเถอะ" 

____________________________

ถ้าอ่านคำแปลเราแล้วก็จะสังเกตได้ว่าเราแปลไม่ตรงตัวนะคะ โดยเฉพาะคำว่า Here we go

ปกติ Here we go เป็นสำนวนเอาไว้พูดเวลาจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง ถ้าแปลเร็วๆ ก็ "เอาล่ะ" แต่ในบางบริบทก็มีน้ำเสียงแง่ลบได้ เช่น Here we go again (เอาอีกแล้วเหรอ) ในเพลงนี้บริบทของแต่ละท่อนเปลี่ยนไป ความหมายก็เลยเปลี่ยนตามค่ะ