TALK ME DOWN - Troye Sivan
/ / B L U E N E I G H B O U R H O O D / /
___________________________________________
I wanna sleep next to you
But that's all I wanna do right now
And I wanna come home to you
But home is just a room full of my safest sounds
Cause you know that I can't trust myself with my 3AM shadow
I'd rather fuel a fantasy than deal with this alone
I wanna sleep next to you
But that's all I wanna do right now
And I wanna come home to you
But home is just a room full of my safest sounds
Cause you know that I can't trust myself with my 3AM shadow
I'd rather fuel a fantasy than deal with this alone
I wanna sleep next to you
ฉันอยากนอนอยู่เคียงข้างเธอ
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
และฉันก็อยากกลับบ้านไปหาเธอ
แต่บ้านเป็นแค่เพียงห้องที่มีแต่เสียงของฉัน
เพราะเธอก็รู้ว่าฉันไว้ใจตัวเองยามอ่อนล้าไม่ได้หรอก (my 3AM shadow แปลตรงๆคือ เงาของตัวเองตอนตีสาม ซึ่งเป็นเวลาที่น่าจะนอนได้แล้ว แต่เขาอยู่จนดึกและคิดฟุ้งซ่าน จึงตอบได้ว่าทำไมเขาถึงเชื่อใจตัวเองไม่ได้ /เพิ่มเติมจาก comment นะคะ: 3AM ที่เพลงจะสื่อ ผมว่าคือเวลาที่คนมักจะฆ่าตัวตายมากที่สุด คือช่วงเวลาตอนตีสามครับ)
และฉันก็อยากกลับบ้านไปหาเธอ
แต่บ้านเป็นแค่เพียงห้องที่มีแต่เสียงของฉัน
เพราะเธอก็รู้ว่าฉันไว้ใจตัวเองยามอ่อนล้าไม่ได้หรอก (my 3AM shadow แปลตรงๆคือ เงาของตัวเองตอนตีสาม ซึ่งเป็นเวลาที่น่าจะนอนได้แล้ว แต่เขาอยู่จนดึกและคิดฟุ้งซ่าน จึงตอบได้ว่าทำไมเขาถึงเชื่อใจตัวเองไม่ได้ /เพิ่มเติมจาก comment นะคะ: 3AM ที่เพลงจะสื่อ ผมว่าคือเวลาที่คนมักจะฆ่าตัวตายมากที่สุด คือช่วงเวลาตอนตีสามครับ)
ฉันอยากจินตนาการเพ้อฝัน มากกว่าที่จะต้องรับมือกับความอ้างว้างนี้
ฉันอยากนอนอยู่เคียงข้างเธอ
That's all I wanna do right now
So come over now and talk me down
So come over now and talk me down
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที (talk someone down แปลว่า เกลี้ยกล่อมให้หยุดทำสิ่งที่ผิด และรวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย)
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที (talk someone down แปลว่า เกลี้ยกล่อมให้หยุดทำสิ่งที่ผิด และรวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย)
I wanna hold hands with you
But that's all I wanna do right now
And I wanna get close to you
Cause your hands and lips still know their way around
And I know I like to draw at night; it starts to get surreal
But the less time that I spend with you, the less you need to heal
ฉันอยากจับมือเธอ
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
และฉันก็อยากอยู่ใกล้ชิดเธอ
เพราะมือและริมฝีปากของเธอยังคงรู้หน้าที่ของมัน
ฉันรู้ว่าฉันชอบคิดไปเองยามค่ำคืน ภาพของมันเริ่มฟุ้งเหมือนความฝัน
แต่ยิ่งฉันใช้เวลาอยู่กับเธอน้อยลงเท่าไหร่ เวลาที่เธอใช้รักษาฉันก็น้อยลงเท่านั้น
และฉันก็อยากอยู่ใกล้ชิดเธอ
เพราะมือและริมฝีปากของเธอยังคงรู้หน้าที่ของมัน
ฉันรู้ว่าฉันชอบคิดไปเองยามค่ำคืน ภาพของมันเริ่มฟุ้งเหมือนความฝัน
แต่ยิ่งฉันใช้เวลาอยู่กับเธอน้อยลงเท่าไหร่ เวลาที่เธอใช้รักษาฉันก็น้อยลงเท่านั้น
I wanna sleep next to you
But that's all I wanna do right now
So come over now and talk me down
(Talk me down)
But that's all I wanna do right now
So come over now and talk me down
(Talk me down)
ฉันอยากนอนอยู่เคียงข้างเธอ
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที
(ช่วยเกลี้ยกล่อมฉันที)
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที
(ช่วยเกลี้ยกล่อมฉันที)
So if you don't mind, I'll walk that line
Stuck on the bridge between us
Gray areas and expectations
But I'm not the one if we're honest, yeah
ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ฉันจะแยกไปเดินทางนั้นเอง
ติดอยู่บนสะพานระหว่างสองเรา
พื้นที่สีเทากับความคาดหวัง
แต่ถ้าหากให้เราพูดตรงๆ ฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญของเธอ
ติดอยู่บนสะพานระหว่างสองเรา
พื้นที่สีเทากับความคาดหวัง
แต่ถ้าหากให้เราพูดตรงๆ ฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญของเธอ
But I wanna sleep next to you
And I wanna come home to you
I wanna hold hands with you
I wanna be close to you
And I wanna come home to you
I wanna hold hands with you
I wanna be close to you
ฉันอยากนอนอยู่เคียงข้างเธอ
ฉันอยากกลับบ้านไปหาเธอ
ฉันอยากจับมือเธอ
ฉันอยากอยู่ใกล้ชิดเธอ
ฉันอยากกลับบ้านไปหาเธอ
ฉันอยากจับมือเธอ
ฉันอยากอยู่ใกล้ชิดเธอ
But I wanna sleep next to you
And that's all I wanna do right now
And I wanna come home to you
But home is just a room full of my safest sounds
So come over now and talk me down
(Talk me down)
ฉันอยากนอนอยู่เคียงข้างเธอ
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
และฉันก็อยากกลับบ้านไปหาเธอ
แต่บ้านเป็นแค่เพียงห้องที่มีแต่เสียงของฉัน
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที
(ช่วยเกลี้ยกล่อมฉันที)
นั่นคือทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำตอนนี้
และฉันก็อยากกลับบ้านไปหาเธอ
แต่บ้านเป็นแค่เพียงห้องที่มีแต่เสียงของฉัน
มาหาฉันหน่อย แล้วช่วยเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ทำอะไรแย่ๆที
(ช่วยเกลี้ยกล่อมฉันที)
________________________________________________________
เขาอยากกลับไปหาคนรักของเขา อยากทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ด้วยความรู้สึกอ้างว้างและโหยหาคนรักมากๆ เขาจึงต้องการให้ใครสักคน(ซึ่งอาจจะเป็นคนรักเก่า)มาพูดเกลี้ยกล่อมก่อนที่เขาจะตัดสินใจทำอะไรเลวร้ายลงไป
/ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ MV ด้วยว่าออกมาเป็นแบบไหน ถ้า MV ออกแล้วจะมาอัพเดตอีกทีนะคะ❤️
________________________________________________________
MV ออกแล้วนะคะ ฮือออออออออ มาอัพเดตให้ตามสัญญาค่ะ :')
คนรักเก่าของ Troye ที่คบผู้หญิงคนนึง เราว่าเค้าไม่ได้รักเธอแบบความรู้สึกที่มีต่อ Troye เห็นได้จากตอนที่เขาปฏิเสธไม่อยากให้เธออยู่ด้วยหน้าหลุมศพของพ่อ(ฉากนี้ทำให้เรายิ้มอ่อน) และคนที่เขาเลือกเดินไปหาก็คือ Troye เขาจึงแน่ใจว่าคนที่เขารักจริงๆคือใคร แต่ใน Blue Neighbourhood สถานที่ที่การรักเพศเดียวกันเต็มไปด้วยอุปสรรค (I am tired of this place, I hope people change. - FOOLS) และพ่อของเขาก็ไม่ยอมรับอย่างแรง จึงดูเหมือนว่าความรักของพวกเขานั้นเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นไปไม่ได้ นอกจากเขาจะสูญเสียพ่อไป เขายังต้องเผชิญกับความเจ็บปวดนี้อีก ทุกอย่างมันคงมากไป เกินกว่าที่คนคนนึงจะรับไหว เขาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ตอนดู MV เราลุ้นมากว่าที่เคยแปลไว้จะตรงหรือเปล่า55555 สรุปว่าตรงด้วย เย้ :))
Blue Neighbourhood Trilogy นี้แสดงถึงอุปสรรคของการเป็นเกย์(และรวมถึง LGBT) หลายคนยังไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง เพราะมีสังคมที่คอยจะ judge :( พวกเค้าไม่ผิด เค้ามีสิทธิที่จะเป็นในสิ่งที่เค้าเป็น แต่คนที่คอยจ้องหาจังหวะเหยียบย่ำนี่สิ
You are the problem.
You are the problem.
32 Comments
พาสสุดท้ายเศร้าฮ่ะ :(
ReplyDeleteMV ออกแล้วนะครับ อยากให้ไปดูแล้วช่วยสรุปความเข้าใจหน่อยน่ะครับ ไม่ค่อยแน่ใจว่าสิ่งที่คิดถูกหรือเปล่า //แอบไม่อยากให้เป็บแบบที่คิดซักเท่าไหร่ 😂
ReplyDeleteขอบคุณที่แปลให้คร้าบ แปลดีมากๆเลย ได้ความรู้ด้วย
อัพเดตสรุปให้แล้วค่ะ :D ขอบคุณมากๆที่เข้ามาอ่านนะคะ //mv นี่ทำร้ายจิตใจจริงๆ ;__;
Deleteพอกลับมาอ่านสรุปแล้วมันตรงกับสิ่งที่ผมเข้าใจเลยครับ ถึงจะไม่อยากให้ตายก็เถอะ 555 (ขำตอนที่บอกว่ายิ้มอ่อนตอนบอกปัดแฟนสาว ผมก็ขำครับตอนนั้น 555) แต่ก็น่าเศร้านะครับที่ต้องเลือกเส้นทางชีวิตไว้แบบนั้น ไม่น่าตัดสินใจฆ่าตัวตายนะครับ เพราะว่าพ่อตัวเองตายก็น่าจะรู้ว่าตัวเองก็เสียใจ แล้วถ้าเขาตายเนี้ยไม่คิดหรือครับว่าคนข้างหลังเขาจะเสียใจเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าครับ จะให้กลับไปคบกันรักกันกับ Troye ก็ไม่ได้ เพราะว่าคนที่กีดกั้นและไม่ยอมรับยังคงมีอยู่ โดยรวมคือไม่น่าตัดสินใจฆ่าตัวตาย ความจริงถ้าเป็นผมคือย้ายเมืองไปเริ่มชีวิตใหม่เลยดีกว่าครับงี้ 5555 Troye ทำเพลงและเอ็มวีดีมากจริงๆครับ อินสุดๆ 555 ขอบคุณคนแปลด้วยเช่นกันครับ : )
Deleteปล.ฉากตอนจบผู้ชายคนนี้นึกถึงตอนเด็กกับ Troye นึกถึงกันจนวินาทีสุดท้ายชีวิต ซึ้งมากครับ
ปลล.สรุปว่าเพลงนี่คือมุมของผู้ชายคนนี้สินะครับไม่ใช่ของ Troye?
เราก็คิดว่าอย่างนั้นค่ะ :D
Deleteขอบคุณสำหรับคำแปลมากครับ :D
ReplyDeleteแปลได้ตรงกับ MV มากค่ะ
ReplyDeleteเพราะตอนจบ So Sad มาก
ขอบคุณมากครับ แปลดีมาก part3 นี่เศร้าจริงๆ น้ำตานี่คลอเลยครับ
ReplyDeleteชอบมากเลยครับ
ReplyDelete3AM ที่เพลงจะสื่อ ผมว่าคือเวลาที่คนมักจะฆ่าตัวตายมากที่สุด คือช่วงเวลาตอนตีสามครับ
ReplyDeleteความรู้ใหม่เลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ :D
DeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteส่วนจากการตีความเพิ่มเติมของผม ตอนที่นายเอกไปนั่งอยู่บันไดมองดีๆมันเหมือนเส้นทางแห่งความตายเลย สภาพเหมือนคนที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าผาไม่มีทางให้เดินไปต่อ พระเอกเดินเข้ามาทั้งคู่กอดกันอยู่ที่ตรงนั้นมันเหมือนการที่ถูกหลายๆสิ่งหลายๆอย่างรุมเร้าจนเจ็บปวด เหมือนถูกสิ่งอื่นๆผลักดันให้พวกเขาต้องมายืนอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ไร้ทางเลือก หากเลือกเดินไปด้วยกันมันก็คงจะเป็นเหมือนก้าวไปสู่เส้นทางแห่งความตาย แต่ไหนแต่ไรมาพระเอกเป็นคนขลาดกลัว ชีวิตของเขาทำอะไรทุกๆอย่างต้องมีพ่อคอยอยู่เคียงข้างตลอด เพราะงั้นเขาจึงกลัวพ่อของเขามากและทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อพ่อไม่ชอบความรักของเขา แต่นายเอกคือคนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ คอยผลักดันและให้ความแข็งแกร่งต่อเขา มาในวันนี้เขาสูญเสียพ่อไป ทั้งความรักก็นำพามาซึ่งความเจ็บปวด หัวใจของเขาเจ็บจนจะไม่มีความรู้สึกหมดแม้กระทั่งความกลัว(หรืออีกนัยหนึ่งความรักของเขาที่มีต่อนายเอกหรือที่นายเอกมอบให้นั้นมันทำให้หมดซึ่งความกลัวไปในที่สุด) MVนี้ปลายเปิด มองผิวเผินเหมือนพระเอกฆ่าตัวตายคนเดียวแต่ผมมองว่าไม่ใช่ มองอีกแง่ เมื่อนายเอกมอบความกล้าหาญให้พระเอกดังนั้นเมื่อหมดทางเลือกเขาก็ไม่คิดกลัวอะไรอีกต่อไป(ดูดีๆมีการตัดภาพมาที่หน้านายเอกตอนกระโดด นั่นหมายความว่าทั้งคู่เหมือนยืนอยู่หน้าผาพร้อมกัน) แล้วภาพสุดท้ายเป็นภาพตอนวัยเด็กที่กระโดดลงไปพร้อมกัน น่าจะแสดงราวๆว่า 1.เมื่ออยู่กับนายไม่ได้ฉันก็ไม่อยากจะอยู่ ยินดีที่จะตายเสียมากกว่า 2.ฉันเลือกนายแม้ว่าจดจบพวกเราจะไปสู่ความตายด้วยกันก็ตาม (เมื่อมีนายอยู่เคียงข้างฉันก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว)
ReplyDeleteขอบคุณที่เข้ามาแชร์ความคิดเห็นนะคะ เห็นคอมเมนต์ยาวๆแล้วปริ่มจัง //v//
Deleteรู้สึกว่าผู้ชายอีกคนนึงฆ่าตัวตาย เพราะ เรื่องพ่อตาย แฟน(ผู้หญิง) และก็เรื่องระหว่างเพื่อนชาย
ReplyDeleteคือเราติดตามมาตั้งแต่เอ็มแรกแล้ว แต่เอ็มนี้เศร้ามากน้ำตาไหลเลย..
ReplyDeleteในการตีความโดยละเอียดสำหรับเรานะ เริ่มตั้งแต่เนื้อเพลงเริ่มต้นเลย
ReplyDelete'I wanna sleep next to you" แปลตรงๆก็คือฉันอยากนอนเคียงคุณ แต่ความหมายแฝงคือ "ฉันอยากจะนอนลงหลุมศพพร้อมๆกับคุณ อาจจะหมายถึงแก่ตายไปด้วยกันหรืออาจจะหมายถึงต้องการตายไปพร้อมกัน
#ชุดสีดำ มันบ่งบอกถึงความเศร้า ความเจ็บปวด บรรยากาศหมองมัว มันไม่ได้บอกแค่ว่าเป็นงานศพอย่างเดียว แต่มันหมายถึง ความรักที่มืดหม่น หัวใจที่เจ็บปวดรวดร้าว ความมืดดำของจิตใจที่สับสนและความทรมานที่ยาเกินกว่าจะรับไหว
#ตอนที่นายเอกเอามือลูบกำแพงหินฝังศพสีเทาๆ มันเป็นความหมายนัยๆว่า อาจจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีกครั้ง สังเกตได้จากตรงที่นายเอกค่อยๆไล้มือไปเบาๆ ตามกำแพงและคิดย้อนกลับไปในอดีต แสดงว่าตอนนี้นายเอกตัดสินใจแล้วว่าตัวเองจะฆ่าตัวตายแน่ๆ ลองคิดในมุมที่ว่าคนเราจะเอามือลูบกำแพงเบาๆโดยไม่มีสาเหตุทำไม ??
ทางพระเอกก็ไม่ได้รักชะนีน้อยคนนั้นจริงๆหรอก สังเกตได้จากตรงที่นางดึงมือออกตอนที่ชะนีน้อยต้องการให้กำลังใจ และตอนพระเอกเลือกเดินไปหาชะนี เพราะนางคนนั้นทำท่าทางรับไม่ได้ แสดงว่าสังคมที่นั่นยังไม่เปิดรับ (ให้ลองย้อนกลับไปดูหน้าของพระเอกตอนที่นายเอกมาหาที่บ้านหลังจากที่เขาทะเลาะกับพ่อ พอเขาไล่นายเอกกลับไป พ่อก็กอดคอเขา ซึ่งพระเอกท่าหน้าไม่พอใจมาก เเสดงว่าพระเอกไม่ต้องการไล่จริงๆ เพียงแต่ไม่อยากให้นายเอกเดือนร้อน
กลับมาที่นายเอก ตอนที่เขาจับที่ริมฝีปาก ด้วยสีหน้าสับสนและกำลังคิดอะไรบางอย่างและนั่งลงไป แล้วพระเอกก็เดินเข้ามาและพวกเขาก็กอดกันตรงหน้าเส้นทางที่เรียงรายไปด้วยหลุมฝังศพ
หมายถึงความรักของเขามันไม่มีทางสมหวัง หรือหมายถึงว่าการหยุด หยุดความรักของพวกเขาไว้แค่นี้ เพราะเมื่อไหร่ที่พวกเขาเลือกมัน ก้าวข้ามเส้นนั้นไป พวกเขาจะต้องพบกับการสูญเสีย เหมือนตายทั้งเป็น แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าที่นี่มันคือที่ทำให้พวกเขาได้พบกัน ที่ๆทำให้พวกเขามีความสุข ที่ๆพวกเขาได้แสดงความรักต่อกัน แต่ชะนีน้อยนางดันมาเจอตอนที่พวกเขากอดกันอยู่ (ถามว่าคนเราจะคิดอะไรมั้ย ถ้าผู้ชายเพื่อนกันมากอดกัน เป็นเราไม่สงสัยอะไรหรอก) พระเอกจึงเลือกที่จะเดินไปและหยุดความรักของพวกเขาไว้เท่านี้
ตัดฉากไปที่ตอนนายเอกวิ่งไปหน้าผาและพระเอกจูงมือนางชะนีเดินออกไป อาจจะหมายถึงว่าพวกเขาต่างต้องเลือกเส้นทางของตัวเอง หนึ่งเริ่มต้นชีวิตใหม่และสองจบชีวิตและความรักของพวกเขาไว้แค่นี้
พอนายเอกยืนที่ริมหน้าผาคิดย้อนกลับไปสมัยเด็กและลืมตาขึ้นมาพร้อมๆกับสายตาที่มุ่งมั่นเหมือนคนตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว และภาพตัดไปที่พระเอกกำมือ หลับตาแล้วกระโดดลงไป พร้อมกับฉากฟองคลื่นกระเซ็นมันหมายถึงพวกเขาตัดสินใจที่จะตายไปพร้อมๆกัน และจบลงตรงที่ภาพแสงอาทิตย์ลับของฟ้าก้าวเข้าสู่ความมืดมิด
จริงๆแล้วในนี้มี symbols อยู่เยอะมากค่ะ ตีความกันสนุกสนานเลยทีเดียว เรายกมาเฉพาะที่สังเกตุง่ายๆ ทุกๆ symbols มีความหมายที่หลากหลายอยู่ที่ตัวมุมมองของคนดูมากกว่าว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้ให้จบอย่างไร หรือเนื้อเรื่องมีปมแบบไหน ขอบคุณเจ้าของบล็อกนะคะ ที่อธิบายความหมายหลายๆอย่างในส่วนที่เราก็งงๆอยู่ 555
ละเอียดมากกกก ขอบคุณที่เข้ามาแชร์นะคะ :)) อ่านแล้วอยากกลับไปดูใหม่ตั้งแต่ Part 1 เลย55555555
Deleteคือเราว่า เอ็มวี มันหลอกเรานะว่า พ่อคนรักของทรอยอ่ะตาย แต่ว่าเราคนที่ตายนะคือทรอย สังเกตได้จาก ภาพย้อนอดีตมันมีสองอย่างคือระหว่างของทรอย กับพ่อ และตอนที่ทรอยไปงานศพ ไม่มีใครเห็นทรอยสักคน และตอนที่ทรอยกับคนรักของทรอยเจอกันแล้วกอดกันนะ เราว่า ผช คนนั้นเห็นวิญาณทรอย เพราะตอนที่ผญคนนั้นมาเจอสังเกตหน้าดีๆๆ ว่าผญคนนั้นทำหน้าแหยงๆๆ ไม่ใช่อารมณ์หึงหวงนะ แบบหลอนๆๆ ไรงี้ แล้วผชคนนั้นก็เหมือนงง กับตัวเองว่าเกิดไรขึ้น แล้วผญคนนั้นก็ลากคนรักของทรอยไปเหมือนกลัวๆๆ แล้วสุดท้ายเขาก็ฆ่าตัวตายตามทรอยไป เหมือนในภาพสมัยเด็กที่โดดน้ำพร้อมกัน น่าจะฟมายถึงว่าเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราว่าที่ทรอยฆ่าตัวตายน่าจะมาจาก fool อ่ะ เหมือนเขาเสัยใจมากที่แฟนเขากลับไปหาผญ แล้วผลักไสไล่ส่งเขา โดยที่เขาไม่รู้ว่าเกิดไรขึ้น
ReplyDeleteขนนี่ลุกขึ้นเลยค่ะ5555555555555 ขอบคุณที่ช่วยกันตีความนะคะ ได้เห็นหลายๆมุมมองเลย :)
Deleteใช่ๆ เรากำลังจะเม้นท์แบบนี้เลยย
Deleteใช่ๆ เรากำลังจะเม้นท์แบบนี้เลยย
Deleteขอบคุณที่แปลมาให้ฟังนะครับ เก่งอังกฤษมาก ๆ อยากเก่งแบบนี้มั่ง ^^ เป็นกำลังใจให้นะครับ ติดตามผลงานตลอดนะคับ
ReplyDeleteขอบคุณมากๆที่ติดตามนะคะ :D จะพยายามอัพบ่อยๆค่ะ :))
Deleteเนื้อเพลงของภาคต่อทั้งสามเพลง Wild, Fools, Talk me down เราจะรู้สึกได้เลยว่ามันไม่สามารถเจาะจงได้ว่าแมททิวหรือทรอยที่เป็นคนเล่าเรื่อง แต่ทั้งสองคนเป็นผู้ที่ถูกกระทำ ปัญหาที่เกย์ไม่เป็นที่ยอมรับถูกเอามาใส่ลงในเพลงแบบกระแทกสังคมถึงจะไม่รุนแรงแต่แฝงไปด้วยความเหนื่อยระอา (ส่วนตัวแล้วมันทำให้ทรอยดูเป็นเกย์ที่แตกต่าง งานของทรอยมันดูสวยงาม อิ่มเอม แต่เรียล)
ReplyDelete1/3 Wild ไร้เดียงสา
ความสัมพันธ์ของแมททิวและทรอยที่มันถักทอมาจากคำว่าเพื่อน ฉากแมททิวน้อยและทรอยน้อยใต้ผ้าห่มสีขาวและราวตากผ้าสีขาว(ความรักของเขาทั้งสองคนมันเกิดขึ้นจากความบริสุทธิ์ในเยาว์วัย จากความผูกพันซึ่งพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด มันเกิดขึ้นเอง) ฉากแมททิวน้อยพาพ่อขี้เหล้ากลับบ้าน(ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการจะจากกัน แต่เพราะผู้คนรอบข้างต่างหากที่มันทำให้พวกเขาต้องจากกัน โดยเฉพาะพ่อของแมททิวที่ดูจะมีปัญหามากเหลือเกิน)
2/3 Fools จุดแตกหัก
แมททิว(พระเอก)..ถูกกระทำจากพ่อ ครอบครัวเพียงคนเดียว ก็ไม่แปลกที่เขาจะรักและกลัวพ่อมาก พ่อของเขารับไม่ได้ที่เขาเป็นเกย์แล้วลงไม้ลงมือกับแมททิว(น่าจะหนักที่สุด ดูจากปฏิกิริยาของแมททิวที่ดูจะหวาดกลัวเอามากๆ) ด้วยความที่แมททิวรักทรอยเขาก็กลัวว่าทรอยจะโดนพ่อตัวเองทำร้าย (ฉากช่วงท้ายพ่อตะคอกใส่ ถ้าทั้งคู่เจอกันอีกเขาจะทำร้ายทรอย..น่าจะใช่นะ ใครได้ยินถนัดบอกที)
ทรอย.. ถูกกระทำจากคนรอบข้าง(ในที่นี้โยนขี้ให้พ่อแมททิว) ทำให้แมททิวต้องหาหนทางเพื่อสะบัดทรอยออกไปด้วยการด่าทอและไล่ทรอยให้ออกไปจากอู่เรือ(เป็นการตบตาพ่อตัวเองและทรอยไปพร้อมๆกัน ยิ่งพ่อทำทีท่าภูมิใจเขาเองก็รู้สึกแย่ที่ต้องทำกับทรอยแบบนั้น) ในเอ็มวีเราจะเห็นว่าทรอยเองก็รับไม่ทันกับการเปลี่ยนไปของแมททิว แล้วหลังจากนั้นแมททิวก็ดอดไปหาสาวใหม่โดยไม่สนใจเขาเลยซักนิด ฉากที่ทรอยเดินมาริมระเบียงแล้วนึกถึงช่วงเวลาสมัยเด็กที่แมททิวปั่นจักรยานมาส่งที่บ้านมันดูเศร้า (ประมาณว่าเขาคนนั้นที่เคยยืนมองกันแบบอาลัยอาวรณ์เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว) ดูเผินๆเราอาจจะคิดว่าคนที่ทำร้ายทรอยคือแมททิว แต่ถ้าไม่มีพ่อของแมททิวเรื่องราวจะไม่ลงเหวแบบนี้เลย
3/3 Talk me down ดึงฉันไว้
การตายของพ่อแมททิวเป็นอะไรที่คาดไว้ แต่.. มันกลับกลายเป็นว่าเรื่องราวมันดันลงเหวหนักไปกันใหญ่ ทั้งที่พ่อตายแล้วเราน่าจะได้เห็นทั้งคู่กลับมารักกันเหมือนเดิม แต่แมททิวดูจะเหนื่อยล้ามากเกินไปจริงๆ (แมททิวดูจะจิตตกง่ายกว่าทรอย อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เป็นที่ยอมรับของคนในครอบครัว แถมต้องมาสูญเสียครอบครัว ดูเขาจะถึงจุดที่ฆ่าตัวตายได้มากกว่าทรอย) แมททิวดูจะไม่ได้รักสาวคนนั้นจริงๆ เขาไม่ต้องการให้เธออยู่ด้วยในช่วงที่เขาเสียใจมากที่สุด กลับเดินตรงไปหาทรอยที่แยกตัวออกไปจากภาพบาดตาหลังจากบาทหลวงเอ่ยคำสุดท้ายจบ ทั้งคู่โหยหากันอย่างเห็นได้ชัด ทรอยเข้ากอดปลอบประโลมขณะที่แมททิวเองก็ดูเหมือนจะต้องการอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อสาวคนนั้นเข้ามาแมททิวก็เลือกจะเดินไปหาเธอ อาจจะเป็นเพราะแมททิวแคร์สังคมและกลัวการไม่เป็นที่ยอมรับหรือไม่ก็ยังไม่หนักแน่นพอที่จะยืนยันจะอยู่ตรงนั้นกับทรอย ดูจากสีหน้าของสาวคนนั้นที่รับไม่ได้กับเรื่องเกย์ แถมยังลากแมททิวให้ออกไปจากตรงนั้นอีก(เหมือนกับสังคมที่ไม่ยอมรับเกย์กำลังฉุดกระชากแมททิวไปจากตัวตนที่แท้จริงและความรักของเขาซึ่งก็คือทรอย) ฉากหลังที่เต็มไปด้วยหลุมศพซึ่งน่าจะสื่อถึงเขตแดนระหว่างโลกและความตาย (ความรักของเกย์ที่ถูกผลักไสก็เหมือนกับการถูกผลักออกไปจากโลกให้ข้ามไปสู่โลกแห่งความตาย ในที่นี้อาจจะสื่อถึงการไม่มีตัวตนก็เป็นได้)
ตอนจบไม่อาจจะสรุปได้เต็มปากว่ามีใครตายหรือไม่ เพราะลองย้อนกลับไปดูเป็นสิบๆรอบ ไล่จาก Wild > Fools > Talk me down แล้วถ้าใครจะตายคนนั้นน่าจะเป็นแมททิวมากกว่าทรอย แต่ไม่สามารถจะตอบได้ว่าแมททิวโดดลงไปจริงหรือไม่ ภาพของทรอยและพ่อสลับกันเข้ามาในหัวของแมททิว(อาจจะสื่อได้ว่าตอนนี้แมททิวเหมือนกำลังยืนอยู่ริมหน้าผา ความเลวร้ายที่เขาเจอเป็นเหมือนเสียงกระซิบให้เขาโดดลงไปแล้วจะไม่เจ็บปวดอีก.. แต่ทรอยคือช่วงเวลาที่งดงามของเขาคือเสียงกระซิบที่รั้งเขาเอาไว้ไม่ให้แบบนั้น) หากเป็นไปตามเนื้อเพลงส่วนตัวคิดว่า แมททิวต้องการให้ทรอยเป็นคนปลอบประโลมตนกับเรื่องราวเลวร้ายที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้ ช่วยปลอบให้เขาหลุดจากห้วงเวลาอันแสนเศร้านี้ที ก่อนที่เขาจะลงมือทำเรื่องเลวร้ายลงไป
5555 อาจจะคิดว่าโลกสวยแต่ความจริงแล้วเอ็มวีซีรี่ย์ชุดนี้สะท้อนปัญหาออกมาให้เราได้เห็นว่าพวกเขาต้องเจออะไรบ้าง จากชื่ออัลบั้ม Blue Neighbourhood มันก็ไม่แปลกที่คนรอบข้างจะเข้ามามีบทบาทในความรักของทั้งคู่มากเหลือเกิน ตอนจบอาจจะเป็นคุณต่างหากที่ตัดสินว่าแมททิวจะโดดหรือไม่ (ส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะแมททิวรักและอยากอยู่กับทรอยมาก เขาแค่จิตตกกับปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาเท่านั้นเอง)
ขอบคุณมากๆนะคะ :) อ่านแล้วอินขึ้นมากกก ;__; กลับไปดูเอ็มวีอีกทีแล้วเห็นว่ามีอะไรให้คิดเยอะเลย
Deleteสุดยอดเลยครับนับถืออ่านแล้วได้มุมมองอีกมุม
Deleteเพ่งได้มานั่งดูความหมายของเพลงจิงจัง + ดูเอมวีซ้ำไปอีก .... นึกถึงตัวเองกับคนรักเก่าสมัยมอปลาย ตอนนี้เค้าไปแต่งงานมีครอบครัวแล้ว T__T น้ำตาซึมทันที
ReplyDelete*** ขอบคุณครับสำหรับการแปลเพลงดีดี
ตอนฟังเพลงนี้ครั้งเเรก ชอบเลยทันที พยายามฟังให้ออกว่าร้องเกี่ยวกับอะไร รู้แเต่ว่าทำนองเพลงมันเหงามาก มันต้องเศร้ามากเเน่นอน พอมาอ่านเเปลเพลงเเล้ว อยากกลับไปดู Part 1 เลยค่ะ ทั้งผู้เเปลเเละคอมเม้นท์แปลกันละเอียดเเละสนุกมาก ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณนะคะ
ReplyDeleteตอนฟังเพลงนี้ครั้งเเรก ชอบเลยทันที พยายามฟังให้ออกว่าร้องเกี่ยวกับอะไร รู้แเต่ว่าทำนองเพลงมันเหงามาก มันต้องเศร้ามากเเน่นอน พอมาอ่านเเปลเพลงเเล้ว อยากกลับไปดู Part 1 เลยค่ะ ทั้งผู้เเปลเเละคอมเม้นท์แปลกันละเอียดเเละสนุกมาก ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณนะคะ
ReplyDeleteเพิ่งมาชอบเพลงนี้ เลยมาหาความหมายของเพลง
ReplyDeleteมันเศร้ามากเลยคะ
คุณแปลออกมาได้ดีมากๆด้วย ชอบ ขอบคุณคะที่มาแปลไว้
เราว่า ทรอย น่าจะตายแล้วนะคะ ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะตอนที่เดินมาที่หลุมฝังศพพ่อ สังเกตุดีๆ ไม่มีใครเห็น ทรอยนะคะ แล้วก็ตอนที่กอดกับบพระเอก จะมีฉากนึงที่พระเอกกอดตัวเองต่างหาก หลุมฝังศพที่ทรอยลูป น่าจะเป็นหลุมฝังศพของตัวเองคะ อันนี้เราไม่แน่ใจว่าใช่มั๊ยนะ คหสต. อะค่ะ แต่ ชอบเพลงนี้มากจริงๆ
ReplyDeletePost a Comment
thank you for every comment :D